วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

GL Fair value 83.30 บาท


บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน)
ณ วันที่ 26/02/56
ราคาตลาดที่     79.50     บาท
P/E                22.42     บาท
P/BV                3.89    บาท
ปีที่แล้วมีปันผล  
ธุรกิจ   เงินทุนและหลักทรัพย์

บล.เอเซีย พลัส : GL แนะนำถือ Fair value 83.30 บาท 

กำไร 4Q55 ต่ำกว่าคาด…แม้ปรับนโยบายลดสำรองแต่เห็นแรงกดดันทั้ง Yield, NIM     
               GL ประกาศกำไรสุทธิ 4Q55 เท่ากับ 107 ล้านบาท แม้จะเป็นกำไรรายไตรมาสที่ขึ้น
ทำ new high แต่ยังเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงไตรมาสที่ผ่านมา และต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ว่า
จะมีกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท แม้จะเห็นปัจจัยบวกในงวดนี้จากการที่บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยน
นโยบายการตั้งสำรองหนี้ฯ จากเดิมที่กันสำรองตามการจัดชั้นหนี้ มาเป็นวิธีการตั้งสำรองแบบรวม
กลุ่ม (Collective approve) ด้วยการใช้ประมาณการจากความสูญเสียในอดีตที่เกิดขึ้นจริง 
(Historical loss) ซึ่งอัตรากการสูญเสียจะต่ำกว่าวิธีเดิมมาก จึงทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ใน
งวดนี้ปรับตัวลดลงถึง 40.4% qoq และ 94.1% yoy  โดย NPL ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ระดับต่ำ
มากเพียง   บวกกับรายได้อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้ค่าธรรมเนียมฯ และรายได้จากหนี้สูญรับ
คืน ที่สูงเกินคาดไปมาก แต่เนื่องจากปัจจัยกดดันหลักๆ ที่มาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย
สุทธิใน 4Q55 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 8.1% qoq และ 32.1% yoy – ต่ำกว่าคาด แม้สินเชื่อสุทธิใน
งวด 4Q55 จะเติบโตถึง 17.7% qoq และ 49.8% yoy – ดีกว่าคาด แต่เนื่องจาก Yield ใน 
4Q55 ปรับตัวลดลงถึง 156bp ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายค่อนข้างทรงตัว จึงทำให้ Spread ปรับ
ตัวลดลงกว่า 158bp ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการแข่งขันที่เป็นไปอย่างรุนแรงในระบบ นอกจากนี้ ยัง
เห็นการปรับตัวขึ้นของ Cost to income ratio ใน 4Q55 มาที่ 33.5% จาก 32.9% ใน 
3Q55 น่าจะเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เติบโต
เชิงรุก ซึ่งล้วนมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยบวกข้างต้น จึงทำให้กำไรสุทธิงวดนี้เพียงค่อนข้างทรงตัว 
QoQ โดยรวมแล้ว GL มีกำไรสุทธิทั้งปี 2555 เท่ากับ 357 ล้านบาท เติบโตถึง 66.2% yoy 
และเป็นกำไรที่สามารถขึ้นทำ new high ในรายปีเช่นกัน  

คงประมาณการ...เดินหน้าผลักดันยอดขายทั้งในประเทศและกัมพูชาตามเป้าหมาย  
                ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-57 ของ GL ด้วยคาดการณ์การเติบโข
อง EPS เท่ากับ 29.7% yoy และ 26.7% yoy ตามลำดับ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับจากการประชุม 
Analyst เมื่อวันศุกร์ (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจปี 2556 ของ GL ซึ่งยังเดินหน้า
เติบโตในเชิงรุกตามแบบฉบับของบริษัทฯ ทั้งธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ (เน้นกัมพูชา) โดยสรุป
ได้ดังนี้ 1) ธุรกิจในประเทศ – การเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นไปในเชิงรุก
ตามแผนคือสามารถเพิ่มการปล่อยสินเชื่อไปที่ระดับสูงกว่า 8 พันคัน/เดือน จากระดับเฉลี่ยที่ 2 
พันคัน/เดือน ในปี 2554 หรือเติบโตกว่า 300%  สูงกว่าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเพียง 20% ใน
รายเดือน พร้อมทั้งสามารถเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ทั่วประเทศมาที่ระดับ 240 แห่ง โดยเป้าหมายปี 
2556 ยังคงตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนการปล่อยสินเชื่อไปที่ระดับ 1.2 หมื่นคัน/เดือน (+50% จาก
ปัจจุบัน) และ   2) ธุรกิจในต่างประเทศ – ซึ่งเน้นไปที่กัมพูชาเป็นหลัก และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ของธุรกิจ ด้วยการปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยล่าสุดที่ขึ้นมาที่ระดับ 200 คัน/เดือน และแนวโน้มของ
พัฒนาการยังเป็นไปในทางบวกอย่างมาก โดยคาดการณ์ยอดขายจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2 พันคัน/
เดือนภายใน 3Q56 และ 5-6 พันคัน/เดือน ภายในปี 2557 ภายใต้การดำเนินการของบริษัทย่อย 
GL Finance Plc. (GL ถือหุ้น 99.8%) ซึ่งได้ license ในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถ
จักรยานยนต์เพียงรายเดียวในประเทศกัมพูชาเป็นเวลา 5 ปี (ต่อสัญญาทุกๆ 2 ปี) โดยบริษัทฯ 
ได้รับความไว้วางใจจากค่ายรถยนต์ Honda  ด้วยการทำสัญญาแบบ exclusive เป็นเวลา 7 ปี 
เพื่อให้ GL Finance ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ Honda เพียงรายเดียวในกัมพูชา  
โดย Honda มีส่วนแบ่งตลาดถึง 95% ของปริมาณการใช้รถจักรยานยนต์รวม โดยปัจจุบัน GL 
สามารถเพิ่มจำนวนดีลเลอร์บวกกับการจัดตั้งสาขาอำนวยสินเชื่อในโชว์รูมของ Honda จำนวน 
2 แห่ง รวมเป็น 11 ราย ตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยปี 2556 ตั้งเป้าที่จะ    เปิดสาขาให้ครอบคลุมตลาด
รถจักรยานยนต์ในพนมเปญซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 45% ทั่วประเทศ (ยอดจำหน่ายรถ
จักรยานยนต์ทั่วประเทศปี 2555 ราว 2 แสนคัน/ปี) 

คงคำแนะนำถือ...ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกต่างๆ ล่วงหน้าไปมากแล้ว 
               ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำถือรับปันผลสำหรับ GL เนื่องจากราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาถือว่า
ได้สะท้อนปัจจัยบวกต่างๆ ไปมากแล้ว ด้วย Fair value ปี 2556   ที่ 83.30 บาท อิง PBV 
3.13 เท่า (วิธี GGM) แทบไม่เหลือ upside จากราคาปัจจุบัน  ภายใต้คาดการณ์ Div yield ปี 
2555-57 สูงเฉลี่ยถึง 4-6% p.a.  (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)  ด้วย Payout ratio ที่ระดับ 60% ของ
กำไรสุทธิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น