SPALI ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 2.6 หมื่นลบ. เพิ่มจากปีก่อน 2.13 หมื่นลบ.
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ
SPALI เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมบริษัทในเครือไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 26,000 ล้าน
บาท จากปีก่อนมียอดขาย 21,322 ล้านบาท โดยยอดขายดังกล่าวจะเป็นยอดขายจาก SPALI
2.4 หมื่นล้านบาท และยอดขายของบริษัทในเครือ 2,000 ล้านบาท
ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 70 โครงการ ทั้งในกทม. และ
หัวเมืองต่างจังหวัด รวมจำนวน 24,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 76,000 ล้านบาท และมี
ยอดขายที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 31,257 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมใช้งบประมาณจัดซื้อที่ดิน 5,000 ล้านบาท และมีแผนเปิด
ตัวโครงการใหม่อีก 25 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบในเขตกทม. - ปริมณฑล และต่าง
จังหวัดจำนวน 16 โครงการ ส่วนโครงการคอนโดฯ มีจำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ กำหนดแผนงานการพัฒนาโครงการในหัวเมืองต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อ
เนื่องจากโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ได้แก่ สงขลา ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และ
ชลบุรี และเตรียมขยายลงทุนโครงการใหม่ที่อุดรธานี และระยอง นอกจากนี้ยังสนใจลงทุนในต่าง
จังหวัดเพิ่มเติม เช่น อุบลราชธานี เชียงราย พิษณุโลก มหาสารคาม และนครศรีธรรมราช รวมทั้ง
ขยายการลงทุนในประเทศอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ พม่า และอินโดนีเซีย เป็นต้น
'ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้แม้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ต้นทุน
การก่อสร้างที่สูงขึ้น เช่น ค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่ง พลังงาน วัสดุก่อสร้างและราคาที่ดินที่แพงขึ้น
แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องด้วยปัจจัยจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในสภาวะทรงตัว บวกกับ
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้โครงการคอนโดฯ ในหัวเมืองต่าง
จังหวัด รีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศ มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมทั้งสำนักงานให้เช่า
ก็มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น เพราะบริษัทต่างๆ มีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น จึงมีความต้องการอาคาร
สำนักงานให้เช่าเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของบริษัทต่อไป' นายประทีป กล่าว
SPALI เผยอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ 41-42% อัตรากำไรสุทธิ 23% เล็งปรับราคา
โครงการแนวราบ 7-8%
ปีนี้บริษัทฯจะปรับราคาขายโครงการแนวราบตามแนวโน้มของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
เฉลี่ย 7-8% ส่วนคอนโดมิเนียมจะปรับขึ้นตามค่าก่อสร้างที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ต้นทุน
เพิ่มแล้ว 10% และยังไม่หยุด
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนจะออกหุ้นกู้จำนวน 1-2 พันล้านบาทเพื่อมาแทนหุ้นกู้ชุดเดิม
ที่จะหมดอายุในปีนี้ จำนวน 1-2 พันล้านบาทเช่นกัน ขณะที่มีแผนลงทุนในต่างประเทศด้วยงบ
ประมาณ 2 พันล้านบาท และหากคิดรวมงบลงทุนทั้งหมดในปีนี้จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะ
มาจากกำไรสะสมของบริษัทฯ บวกกับการกู้เงินบางส่วน โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีรายได้ 1.3 หมื่นล้าน
บาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.16 หมื่นล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น