วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ERW รายได้เพิ่ม

ERW คาดไตรมาส 1/56 รายได้เพิ่ม 12% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 
 นายไกรลักษณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป 
จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่าบริษัทฯ คาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 1/2556 จะเติบโต
12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติจะเพิ่มสูง
ขึ้นจากเดิม 24 ล้านคน เป็น 28 ล้านคน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้ปรับราคาค่าห้องพักระดับ 5 
ดาว เพิ่มอีก 6-8% จากราคา 5,000 บาทต่อคืนต่อห้อง และระดับ 4 ดาว อยู่ที่ 2,600 บาทต่อคืน
ต่อห้อง 
 'คาดว่าในไตรมาส 1 ในปีนี้จะมีรายได้ที่เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่อง
จากมีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีโรงแรมไว้รองรับนัก
ท่องเที่ยวจำนวน 16 โรงแรม' นายไกรลักษณ์ กล่าว

ERW เผย 3 ปีข้างหน้า (56-58) ทุ่มงบลงทุน 6 พันลบ. ซื้อที่ดิน-สร้างโรงแรมใหม่   
 นายไกรลักษณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป 
จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่าบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า (2556-
2558) ไว้ที่  6,000 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินและสร้างโรงแรม โดยจะเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว 
และ 4 ดาว 
               ส่วนในปีนี้บริษัทฯ ได้ก่อสร้างโรงแรมอีก 2 แห่ง ที่พัทยา  โดยจะเริ่มสร้างในช่วงกลาง
ปี และคาดว่าจะเสร็จพร้อมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการได้ในช่วงปลายปี 2557 อย่างไรก็ตาม
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาการลงทุนในต่าง
ประเทศ ซึ่งหากจะลงทุนสร้างโรงแรมนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในแถบประเทศอาเซียน

ERW จับมือ บลจ.ไทยพาณิชย์ จัดตั้ง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท
มูลค่ากว่า 1.8 พันลบ.  
           ERW และ กลุ่มไทยพาณิชย์  ได้ร่วมมือกันจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮ
เทล โกรท (Erawan Hotel Growth Property Fund: ERWPF)  เพื่อลงทุนในอสังหาริม
ทรัพย์ประเภทโรงแรมจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา ซึ่ง
เป็นโรงแรมชั้นประหยัดของบมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 
เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับประกันการจำหน่ายหน่วยลงทุน  

            นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทย
พาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนรวม ERWPF จะรับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Freehold) 
ของทั้งสองโรงแรม ซึ่งประกอบด้วยที่ดินพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้าง งานระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยว
ข้องกับกิจการโรงแรม และเฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สินติดตรึงตรา และอุปกรณ์ต่างๆ จาก บมจ. ดิ 
เอราวัณ กรุ๊ป สำหรับโรงแรมไอบิส ป่าตอง ตั้งอยู่ใจกลางหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ตัวโรงแรมมี
ลักษณะเป็นอาคารสูง 5 ชั้นอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน และ 28.6 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด
ประมาณ 10,400 ตารางเมตร (รวมพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำ) และห้องพักจำนวน 260 ห้อง 
ส่วน โรงแรมไอบิส พัทยา  ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดพัทยา ตัวโรงแรมประกอบด้วย อาคารสูง 7 ชั้น อยู่
บนพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน และ 34.3 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 10,100 ตารางเมตร 
(รวมพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำ) และห้องพักจำนวน 254 ห้อง  ทั้งนี้ โรงแรมทั้ง 2 แห่งได้เปิด
ให้บริการตั้งแต่ปี 2551 โดยดำเนินงานอยู่ภายใต้แบรนด์ไอบิส ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมชั้น
ประหยัดที่เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้เป็นที่มั่นใจได้ว่า
คุณภาพการให้บริการ การทำการตลาด และการควบคุมค่าใช้จ่ายของโรงแรมจะเป็นไปตาม
มาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพ 
            นางกมลวรรณ  วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 
หรือ ERW เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ดิ เอราวัณ กรุ๊ป มีโรงแรมชั้นประหยัดในกลุ่มไอบิสทั้งหมด 9 
แห่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา ถือ
ว่าเป็น 2 โรงแรมชั้นประหยัดที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง  จุดเด่นสำคัญของโรงแรมทั้ง 2 
แห่ง คือ คุณภาพของทรัพย์สินที่ดีเยี่ยมและทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของ
ประเทศ ตลอดจนผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 โรงแรมไอบิส ป่าตอง 
และโรงแรมไอบิส พัทยา มีรายได้รวม สูงถึง 114.2 ล้านบาท และ 106.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา
การเติบโตเฉลี่ย (CAGR)   ในช่วงปี 2552 ถึง 2555 เท่ากับ 11% และ 22% ตามลำดับ 
          บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ได้เน้นเรื่องการขยายธุรกิจโรงแรมชั้นประหยัดมาโดยตลอดในช่วง 
5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นศักยภาพในการเติบโตสูงจากการที่มีฐานลูกค้ากว้างขวาง โดยเฉพาะ
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ที่มีความ
สำคัญต่อประเทศและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต นอกจากการเพิ่มขึ้นของนักท่อง
เที่ยวต่างชาติแล้ว นักท่องเที่ยวไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นซึ่งเป็นผลจาก
การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศจากรัฐบาลอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยนักท่อง
เที่ยวไทยส่วนใหญ่จะเลือกพักในโรงแรมชั้นประหยัดหรือระดับกลางมากกว่าโรงแรมระดับบน ซึ่ง
สภาวะดังกล่าวเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของโรงแรมในกลุ่มนี้ของบริษัท
          ทั้งนี้ กองทุนรวม ERWPF จะได้รับค่าเช่าคงที่ตลอดระยะเวลาการเช่าและได้รับค่าเช่า
แปรผันเพิ่มเติมตามที่กำหนดในสัญญา พร้อมการรับประกันรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำที่จ่ายเข้ากองทุน
รวมในช่วง 4 ปีแรก นับแต่วันที่กองทุนรวมเข้าลงทุนในทรัพย์สินจาก บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  
จำนวน 111.5 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกระบวนการรับประกันรายได้ดังกล่าวเป็นการเพิ่มความแน่นอน
ในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่กำหนดจ่ายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ หาก
มองในส่วนของโอกาสในการเติบโตของกองทุนรวมแล้ว กองทุนรวม ERWPF ยังได้รับสิทธิ
จาก บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ในการลงทุนในโรงแรมเครือไอบิสที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยที่ บมจ.ดิ 
เอราวัณ กรุ๊ป เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือเป็นผู้มีสิทธิครอบครองทั้งในปัจจุบันและในอนาคต 
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวม  นอกจากนี้กองทุนรวมมีนโย
บายชัดเจนในการประมูลหนึ่งในทรัพย์สินที่ลงทุนในทุกๆรอบ 5 ปี ซึ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างราย
ได้เพิ่มเติมให้แก่กองทุนรวมนอกเหนือจากรายได้ค่าเช่า เนื่องจากทรัพย์สินมีศักยภาพในการ
เพิ่มมูลค่าในอนาคต
            โดยกองทุนรวม ERWPF จะเปิดเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 15-22 
มีนาคม 2556 ในราคา 10.40 บาทต่อหน่วย  โดยมีจำนวนเงินทุนของโครงการทั้งสิ้นไม่เกิน 
1,831,440,000 ล้านบาท โดยจำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 4,000 หน่วย และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 
1,000 หน่วย ซึ่งวิธีการเสนอขายและจัดสรรหน่วยลงทุนให้กับผู้จองซื้อทั่วไปตามเกณฑ์สำนักงาน
คณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยกำหนดการจัดสรรในรูปแบบ Small-Lot First สำหรับผู้จองซื้อทั่วไป
            ส่วนนางสาววรดา ตั้งสืบกุล  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Investment Banking 
Coverage 2 ฝ่ายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุน
รวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) คือ ทรัพย์สินที่จะลงทุนมีคุณภาพสูงและมี
การกระจายที่ตั้งใน 2 ทำเลที่มีศักยภาพสูงในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ ทั้งพัทยาและ
ภูเก็ต เนื่องจากมีทำเลที่ดีมากจึงมีโอกาสได้รับประโยชน์จากราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต 
โดยการที่กองทุนรวม ERWPF จะได้รับค่าเช่าคงที่ตลอดระยะเวลาการเช่า และได้รับประกัน
รายได้ค่าเช่าขั้นต่ำโดย บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ในช่วง 4 ปีแรก ช่วยลดความเสี่ยงของรายได้ที่อาจ
มีความผันผวนได้ นอกจากนี้ ทางกองทุนรวม ERWPF ยังได้รับสิทธิจาก บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  
ในการลงทุนในโรงแรมเครือไอบิสในประเทศไทยของ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  ทั้งในปัจจุบันและ
ในอนาคต ตลอดระยะเวลา 5 ปี ข้างหน้านับจากวันที่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุน
          ทั้งนี้ กองทุนรวม ERWPF จะมี บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  เป็นผู้ถือหน่วยรายใหญ่และผู้เช่า
ทรัพย์สินจากกองทุนรวมที่ถือได้ว่าเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าที่มีผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความ
เชี่ยวชาญในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรมชั้นนำในทุกระดับซึ่งได้รับการยอมรับมา
นานกว่า 30 ปี ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงมั่นใจว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 
เอราวัณ โฮเทล โกรท จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น