วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

GL


GL จ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด พร้อมเพิ่มทุน 40.97 ล้านหุ้น-แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 
0.50 บาท 

 นายดีพงศ์ สหะชาติศิริ กรรมการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผย
ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1 บาท/หุ้น และหลังจากจ่ายปัน
ผลระหว่างกาลแล้ว บริษัทฯ ยังเหลือมูลค่าเงินปันผลประมาณ 80.65 ล้านบาท โดยจะจ่ายเป็นหุ้น
สามัญบางส่วน และเงินสดบางส่วน (อัตราการปันผลที่แน่นอนขึ้นอยู่กับจำนวนการใช้สิทธิใบ
สำคัญแสดงสิทธิ GL- W2 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 29 มี.ค.56) โดยจะจ่ายเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือ
หุ้นของบริษัทในอัตราระหว่าง 6.33 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ถึงอัตรา 4.78 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปัน
ผล และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0877– 0.1160 บาท 


 ดังนั้น คณะกรรมการจึงอนุมัติเพิ่มทุน 40.97 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 5 บาท รวมมูลค่า 
204.88 ล้านบาท แบ่งเป็นการเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน จัดสรรให้แก่  
1. รองรับการจ่ายหุ้นปันผล 14.51 ล้านหุ้น 2.รองรับการปรับสิทธิ์ของหลักทรัพย์แปลงสภาพ 
5.59 ล้านหุ้น  และแบบมอบอำนาจทั่วไป (GeneralMandate) จัดสรรให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมตาม
สัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 20.85 ล้านหุ้น โดยกำหนดวันจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 
ประจำปี 2556 ในวันที่ 26 เมษายน 2556  
 ทั้งนี้ จำนวนเงินปันผลที่จ่ายเป็นหุ้นสามัญบางส่วน และเงินสดบางส่วนทั้งหมดที่
ประมาณไว้ จะทราบจำนวนที่แน่นอนหลังจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ GL-W2 ครั้งที่ 2 
ณ. วันที่ 29 มีนาคม 2556 ซึ่งบริษัทจะแจ้งอัตราการปันผลที่แน่นอนให้ทราบ หลังจากการใช้
สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวในช่วงเช้าวันที่ 1 เมษายน 2556
 สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มเพื่อรองรับการ
จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญ และ สำรองทุนไว้เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต ส่วนประโยชน์ที่
บริษัทคาดว่าจะได้ คือ นำเงินสดที่จะจ่ายปันผลมาเป็นทุนหมุนเวียน และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องใน
การซื้อขายหุ้นของบริษัทให้สูงขึ้น จากจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น
 ประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญ
มีมูลค่าตามที่บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
 นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมีมติเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลง
มูลค่าหุ้นของบริษัท ที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท(ห้าบาท) เป็นหุ้นละ 0.50 บาท (ห้าสิบสตางค์) ซึ่งทุน
จดทะเบียนของบริษัทยังคงจำนวนเท่าเดิม คือ 675 ล้านบาท โดยแบ่งแยกมูลค่าหุ้นสามัญของ
บริษัทจากจำนวน 135 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท) เป็น 1.35 พันล้านหุ้น 
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (ห้าสิบสตางค์) โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอ
อนุมัติต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น